10 ปี กับการเป็น Project Manager และ 2 ปี กับการทำงานที่ 2C2P
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปี ก่อน
ผมมีโอกาสได้เข้าทำงานในตำแหน่ง Project Manager (PM) ในบริษัทฯแห่งหนึ่งทั้งที่ไม่มีประสบการณ์ใดๆมาก่อนเลย แต่เราจำได้ว่าเราเตรียมตัวหาความรู้ที่จำเป็นก่อนเข้าสัมภาษณ์ เพราะเราอยากได้งานนี้ เราเตรียม presentation ที่บ่งบอกว่าตัวเราเป็นอย่างไร เราทำงานที่เป็น project อะไรมาบ้าง และนำเสนอว่าทำไมเราอยากทำงานนี้ ผลก็คือทางบริษัท ก็ให้โอกาสเรา บริษัทนั้นก็คือ NetONE Network Solution ซึ่งผมขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
อย่างไรก็ตามตัวผมเองก็ทำงานในสายนี้มาอย่างต่อเนื่องและก็มีโอกาสได้ย้ายงานไปหลากหลายที่ อาจจะดีบ้าง ไม่ดีบ้างป่ะปนกันไป แต่สุดท้ายแล้วทุกที่ที่เราไป เราได้ทำอะไรเพื่อเขาไม่มากก็น้อย และทำให้ผมเป็นคนที่เก่งขึ้นมากในสายงานนี้
ผมว่ามันมีไม่กี่คนหรอกที่เข้ามาทำงาน PM แล้วจะชอบและรักในงานนี้ ซึ่งผมชอบมากนะ แต่ถามว่ามีท้อไหม มันก็มีแหละ เราก็คนเนอะ บางคนที่อาจจะหลบหนีจากสายงานนี้ไปก็เป็นเพราะ PM เสมือนหน้าด่านที่ต้องเจอแรงกดดันทั้งฝั่งลูกค้า และฝั่งภายในบริษัทเอง และเป็นงานที่ทำดีเสมอตัว ทำชั่วติดลบ ซึ่งในบางครั้งสิ่งเหล่านี้มันก็บั่นทอนคนเหล่านั้น และสาบานกับตัวเองว่าฉันจะไม่กลับมาทำงานนี้อีก…
แรงบัลดาลใจในการเป็น Project Manager
ถามว่าอะไรคือ แรงบันดาลใจ ในการที่เราอยากจะเป็น Project Manager นั่นก็เป็นเพราะเคยอยู่ใน team member ของโครงการนึง แล้วเรารู้สึกว่ามันห่วย เรารู้สึกว่า “ถ้าเป็นเรา เราจะไม่ทำแบบนั้น” และนั่นก็คือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากรู้ อยากศึกษาด้านนี้จริงจัง ทั้งๆที่ตัวผมเองจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มา
ครั้งนึงผมเคยไปอยู่ใน sub project ของโครงการก่อสร้าง King Power รางน้ำ ในวันนั้นมีผมและทีมซึ่งเป็นส่วนนึง เข้าประชุมรวมกับทีมโปรเจคก่อสร้างทีมอื่นๆ โดยมี Project Manager ท่านนึงเป็นผู้ดำเนินการประชุม ผมบอกเลยว่าผมรู้สึกชื่นชม PM ท่านนั้นมากๆ เพราะเขาสามารถรู้ในทุกส่วนของการก่อสร้าง ทีมนั้นทีมนี้มีปัญหาเขารู้ถึงปัญหาและแนวการแก้ปัญหา หรือไอเดียที่จะให้ทีมเหล่านั้นกลับไปคิด เพื่อให้โครงการดำเนินจนเสร็จทันตามกำหนด เรารู้สึกว่าเราอยากทำแบบนั้นบ้าง และ PM ท่านนี้ก็เป็นอีกหนึ่ง idol ที่ผมยังจำได้ แต่ถึงแม้จะไม่รู้จักชื่อก็ตาม แต่เขาคือ Idol ผมเลยล่ะ
2 ปีที่แล้ว เกิดอะไรขึ้น
ย้อนกลับไปสัก 2 ปีก่อน…ผมได้รับโทรศัพท์จาก Head hunter ว่ามี job offer ที่บริษัท 2C2P ซึ่งเขาแจ้งว่าหัวหน้างานของผมเป็นชาวต่างชาตินะ เขาจะขอสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษดูว่าเราไหวไหม ซึ่งหลังจาก role play กันแล้ว เขาบอกว่าภาษาอังกฤษเราโอเค แต่บทสนทนาเราดูแห้ง ซึ่งผมรู้สึกว่า โอ้โห Head hunter คนนี้เขาไกด์ผู้สัมภาษณ์ถึงขนาดนี้เชียวหรือ ผมรู้สึกปลื้มมาก ที่เขาบอกถึงจุดอ่อน สิ่งที่เราต้องปรับปรุง พร้อมแนะนำ ให้เวลาเราไปฝึกและเขาก็มาทดสอบเราใหม่
ในวันสัมภาษณ์นั้นผมน่าจะแว๊บมาตอนเย็นๆ ผู้สัมภาษณ์ผมคือคุณ Jussi Vihtonen ซึ่งเป็นชาวนอร์เวย์ ขณะนั้นเขาดำรงตำแหน่งเป็น Director ในฝั่ง Project Management ผมบอกเลยว่า ผมเกร็งมากๆๆๆๆๆ มีหลายคำที่ผมต้อง pardon แต่ผมก็รู้สึกว่าทำได้โอเค และก็คิดว่าไปได้สวย สุดท้ายก็ผ่านครับ
ณ วันแรกที่เข้ามาทำงานที่นี่ ด้วย Facility ต่างๆที่คุณไม่ต้องเตรียมอะไรมานอกจากแก้วน้ำส่วนตัวมา โต๊ะมีพร้อมไว้ให้นั่ง รวมถึง Welcome Card ที่วางอยู่บนโต๊ะ นั่นทำให้เรารู้สึกประทับใจมาก
3 เดือนแห่งการ Probation
เป็นความทรมาน สำหรับเราพอสมควร เพราะว่า
- เราไม่รู้ product ในสิ่งที่เรากำลังจะ manage มาก่อน ถึงรู้ ก็ค่อนข้างต่างจากที่เคยรู้
- แอร์หนาวมากจ้า จนทุกวันนี้ก็ยังหนาว แต่เริ่มชินมากขึ้น จำได้ว่าถึงกับต้องลงไปตากแดดด้านล่างอยู่บ่อยๆ
- ทำงานที่นี่ต้อง proactive
ก่อนหน้านี้เราทำงานเป็น PM ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง แน่นอนว่ามันก็จะมีความสบายบ้าง เหนื่อยบ้างปนๆกัน บางทีก็เฉื่อยๆจนเรารู้สึกแก่
แต่การมาอยู่ที่นี่ ทำให้เรารู้สึกเหมือน 14 อีกครั้ง เราต้อง active ตัวเอง และในเวลาที่เราอาจจะว่างบ้าง เราจะต้องหยิบอะไรขึ้นมาทำ เพื่อพัฒนาองค์กร (อันนี้เขาไม่ได้ขอ แต่เรารู้สึกว่า เราอยากทำ)
สำหรับ Product ที่เราไม่รู้นั้น ต้องขอบคุณ Jussi ที่ผลักผมลงเหวไปเลย เพราะตอนนั้นจำได้ว่า เขาอธิบาย Flow การทำงานของ product นั้น 1 รอบ โดยจดบนกระดาน จากนั้นเขาให้การบ้านเราโดยการวาด Flow นั้นขึ้นมาเอง แล้วเขาจะถามคำถาม
ลองนึกสภาพตัวเองตอนนั้น… เราต้องวาดพร้อมทั้งไปขอความรู้จากคนอื่น และต้องระแวงว่าเขาจะถามอะไร … สุดท้ายเราก็ผ่านมันไปได้ด้วยดี Jussi เสริมสิ่งที่เราขาดหายไป และตลอดการทำงานที่เขาดำรงตำแหน่งนั้นที่เมืองไทย ก็จะมีคำแนะนำด้านเทคนิคมาให้เราเข้าใจมากขึ้น (แต่ Jussi ก็ยังเป็นคนดุสำหรับเรานะ ฮ่าๆๆ ยกเว้น ตอนนางเมา)
ครบ 2 ปีแล้ว มีอะไรดีหรือไม่ดีบ้างนะ
แป๊บๆ ทำงาน 2C2P มา 2 ปี แล้วนะ…. ไม่มีอะไรจะเขียนนอกจากว่า ผมไม่เคยเจอที่ไหนเหมือนที่นี่ ทุกคน น้องๆที่ทำงานร่วมกันมา ฝ่ากันมาแต่ละโปรเจคอย่างยากลำบาก ทุกคนร่วมมือกัน และดีมากๆจริงๆ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าทุกคนโตอย่างรวดเร็ว แต่เติบโตไปด้วยกัน แม้กระทั่งอารมณ์
หลายๆคนคงเจอคนในที่ประชุมเกิดอาการไม่พอใจหรือหงุดหงิดบ้างไหม? นั่นมันอาจจะทำให้ประชุมล่ม หรือทำให้การทำงานลำบากในอนาคต แต่สิ่งที่ผมเจอคือ เมื่อคนนึงเกิดอาการแบบนี้ คนอื่นก็จะคอยผ่อนเพื่อให้เราทำงานได้ราบรื่น ในวันที่เราขึ้น คนอื่นจะช่วยผ่อน ในวันที่คนอื่นขึ้น เราก็ช่วยผ่อน
ผมว่านั่นก็เป็นเพราะว่าทุกคนก็รักในการทำงานที่นี่มากเช่นเดียวกัน และไม่รู้ว่าวันนึงต้องไปที่ใหม่ จะมีที่ไหนที่เรียกได้ว่าเหมือนทำงานที่บ้านเพื่อน ได้ขนาดนี้
ขณะที่ผมกำลังเขียนบทความนี้ เป็นช่วงเดียวกับ Covid-19 กำลังระบาด ทุกคนต้องสลับกันระหว่าง Work from home กับ Work at office เป็นทีม A ทีม B
ผมรู้สึกอยากให้ไอ้โรคนี้มันหมดไปเร็วๆซะที ผมอยากกลับมาเจอทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตา และได้ brain storm ในการทำงานกันอีกครั้ง
ไม่ได้โฆษณา แค่อยากจะเล่าถึงความประทับใจ
สำหรับใครที่บังเอิญเปิดมาเจอบทความนี้ หรือบังเอิญอยากหาข้อมูลของ 2C2P ผมกล้าพูดได้ว่า มาเถอะครับ มาพิสูจน์ดูด้วยตัวเอง แต่ผมว่าที่นี่ไม่แพ้ใคร (คือนี่ บ. ไม่ได้มาจ้างผมเขียนนะบอกก่อน ผมเขียนจากประสบการณ์ตัวผมเองนี่ล่ะ) แล้วถ้าได้อยู่ที่นี่แล้ว อย่าอยู่เฉยนะครับ เราต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ต้อง active ไปในทุกนาที จริงๆไม่ใช่เพื่อใครหรอก เพื่อตัวคุณเองจะเก่งขึ้น และเก่งขึ้น แต่ถ้าอยากจะทำงานไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตทั่วไปไม่หวือหวา ที่นี่จะไม่เหมาะกับคุณเลย ฮ่าๆๆ