รีวิวบัตรเครดิต 2023 ใบไหนคุ้มสุด? (ฉบับใช้เอง No Sponsor)
ไม่ได้เขียน Blog สักพักนึงเนื่องจากงานเยอะมาก และอยากพักผ่อนสมองสักพัก แต่วันนี้พอไหว แต่ก็จะเป็นแนว Lifestyle การเงินสักนิด
สืบเนื่องจากบทความเก่า ผมมีการเขียนเล่าเรื่องราวชีวิตผ่านบัตรเครดิต หลายๆคนคงสงสัยว่าผมมีบัตรตระกูลเครดิตทั้งหมดกี่ใบ และใช้อะไรบ้าง
วันนี้เลยจะมารีวิวบัตรเครดิตที่ใช้อยู่ทั้งหมด 8 ใบ มีใบไหนชอบ ใบไหนไม่ชอบ ใบไหนคุ้ม ใบไหนกาก เดี๋ยวจะเม้าท์ให้ฟัง
คำเตือน: ผมไม่ได้สนับสนุนในการเป็นหนี้ใดๆนะครับ การใช้บัตรเครดิตคุณต้องใช้ให้เป็นคุณถึงจะรู้สึกว่า โคตรคุ้มค่าเลย ดังนั้นขอให้ระมัดระวังการใช้บัตรเครดิตด้วยนะครับ
เกณฑ์การให้คะแนน
ผมจะแบ่งออกเป็น 4 อย่างครับ
- ความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์
- ความรวดเร็วในการอนุมัติ
- วงเงินที่ได้รับ
- ความสวยงามของบัตร
Note: ผมมีรสนิยมเรื่องความสวยงามบัตรนิดหน่อย ผมจะไม่ชอบปั้มเลขนูน เพราะมันค่อนข้างล้าสมัย และไม่ปลอดภัยนัก จะชอบแบบพิมพ์เลขอยู่ด้านหลังบัตร
Bangkok Bank — Air Asia Credit Card (Mastercard)
หลังจากยุคมืดแห่งการใช้บัตรเครดิตของผมผ่านไป ถือว่าเป็นใบแรกที่เลือกมาใช้งานเนื่องจากชอบเที่ยวมาก โดยเฉพาะต่างประเทศ (รายได้ไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องเที่ยวต้องมา)
ข้อดี: เหมาะสำหรับคนที่ใช้บริการสายการบิน Air Asia โดยเฉพาะ สามารถสะสม Big Point ได้รวดเร็ว นอกจากนี้ผมรู้สึกว่าธนาคารนี้ น้อยมากที่จะโทรมาเชิญชวนสมัครบัตรเครดิต คือแทบไม่มีเลย (เป็นข้อเสียเหมือนกัน)
ข้อเสีย: ไม่เคยเพิ่มวงเงินให้ใดๆเลย ได้เท่าไหร่เท่านั้น เงียบมากในการมาเชิญชวน 555 และด้วยวงเงินที่มีอยู่เท่านั้น จะจองตั๋วหลายๆใบในเวลาเดียวกันวงเงินปริ่มมาก เรื่องโปรโมชั่นเครดิตของธนาคารนี้ คือมันก็มีแหละลดนั่นนี่ แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่ร้านที่รู้จักเท่าไหร่ มันก็เลยแทบไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ด้านอื่นนัก
ความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ ⭐⭐⭐
ความรวดเร็วในการอนุมัติ ⭐
วงเงินที่ได้รับ ⭐⭐
ความสวยงามของบัตร ⭐⭐⭐
Kasikorn Bank — Titanium Credit Card (Mastercard)
เป็นบัตร Cash Back Credit Card ที่น่าจะตอบโจทย์ Life style คนเราพอสมควร ด้วย Cash Back ในหมวดร้านอาหาร และปั๊มน้ำมัน รวมถึงค่าใช้จ่ายแทบทุกรูปแบบจะมีเงินคืนหมด ไม่ต้องมาปวดหัวเรื่องการแลกแต้มใดๆ เหมาะเป็น Everyday usage
ส่วนตัวผมจะใช้บัตรนี้เฉพาะกับการรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นหลักหรือถ้าต้องเติมน้ำมันที่บางจาก
ข้อดี: ได้เงินคืนเลย ไม่ต้องแลกแต้ม สามารถใช้เพื่อผ่อนสินค้ากับ Apple Store ได้ เน้นใช้จ่ายกับร้านอาหาร ค่อนข้างตอบโจทย์กับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ข้อเสีย: ไม่ได้โฟกัสไปที่สิทธิประโยชน์เจาะจงด้านใดเป็นพิเศษ บัตรเครดิต Kasikorn ในหลายๆเว็บช็อปปิ้ง ไม่ค่อยร่วมโปรโมชั่นผ่อน 0% แต่ Apple Store ร่วม (งงมะ) ถือว่าถ้าเอามาผ่อนของ จะพบว่าไม่ค่อยได้หยิบมาใช้นัก นอกจากนี้หลักฐานการสมัครต้องใช้เอกสาร 50 ทวิ ซึ่งประหลาดกว่าทุกเจ้าและแทบไม่มีเจ้าไหนใช้เอกสารนี้
ความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ ⭐⭐⭐⭐
ความรวดเร็วในการอนุมัติ ⭐⭐⭐⭐
วงเงินที่ได้รับ ⭐⭐⭐
ความสวยงามของบัตร ⭐⭐⭐
Kasikorn Bank — Platinum Credit Card (Visa)
ผมทำบัตรนี้พร้อมๆกับ Titanium เลยครับ เนื่องจากไม่มี Scheme Visa ใช้ และเป้าประสงค์อีกอย่างนึงคืออยากเอาไว้ใช้เข้า Miracle Lounge ที่สนามบิน ตัวการ์ดเป็นการสะสมแต้ม
บัตรนี้ผมจะใช้เอาไว้ตัดพวกค่าสาธารณูปโภคเป็นหลัก ไม่ได้มีโปรโมชั่นอะไรหรอกนะครับ แค่เอาไว้สะสมแต้มก๊อกแก๊ก กับเผื่อไว้ถ้าต้องใช้งาน Visa จริงๆถ้ามีโปรโมชั่นตาม Card Scheme
ข้อดี: สามารถใช้เพื่อผ่อนสินค้ากับ Apple Store ได้ เข้า Miracle Lounge ที่สนามบิน สะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัล และเปลี่ยนแต้มเป็นเงินสดเพื่อจ่ายค่าบัตรเครดิตได้ ทำให้ประหยัดไม่ได้นิดหน่อย
ข้อเสีย: บัตรหน้าตาไม่สวยเลย หยิบใช้แล้วอับอายมาก การสมัครต้องใช้เอกสาร 50 ทวิ ไม่ค่อยร่วมโปรโมชั่นผ่อน 0% แต่ Apple Store ร่วม
ความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ ⭐⭐
ความรวดเร็วในการอนุมัติ ⭐⭐⭐⭐
วงเงินที่ได้รับ ⭐⭐⭐
ความสวยงามของบัตร ⭐
Citi — Cash Back Credit Card (Mastercard)
นี่คือบัตรที่ Everyday Use จริงๆ ด้วยตัวมันเป็น cash back ทุกยอดใช้จ่าย แถม cash back เพิ่มในร้าน 7–11, Watson, Cafe Amazon ซึ่งถือว่าได้ใช้บ่อยๆ ไม่เพียงเท่านั้นการผ่อน 0% ของ Citi ถือว่าเข้าร่วมเยอะมากๆ พวกหมวดเทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ แต่ก็มีบางครั้งที่หน้าบัตรประเภทนี้อาจจะไม่เข้าร่วม เช่น โปรโมชั่นรับเงินคืนเมื่อซื้อครบตามยอดที่กำหนด และไม่ได้มี Point สะสม
ผมว่าบัตรนี้ใครที่ถืออยู่ส่วนใหญ่ค่อนข้าง happy และถูกใจ อย่างไรก็ตาม Citi ได้ขายธุรกิจเครดิตการ์ดให้กับ UOB ไปแล้ว แต่เท่าที่เห็นข้อมูลล่าสุด สิทธิประโยชน์ก็เหมือนจะยังได้ไม่ต่างจากเดิม ก็ต้องรอดูกันต่อไป
ข้อดี: ใช้งานได้ดี สิทธิประโยชน์คุ้มค่า หยิบมาใช้จ่ายบ่อยมาก ไม่ต้องสะสมแต้ม วงเงินที่ให้เยอะมากเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นๆ โปรโมชั่นที่ใช้งานได้จริงมีเยอะ
ข้อเสีย: ไม่มีแต้มสะสม ในอนาคตไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไปอยู่ในมือ UOB ได้สักระยะ (ผมไม่ค่อยชอบ UOB เพราะแทบไม่ตอบโจทย์อะไรเลย)
ความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ ⭐⭐⭐⭐⭐
ความรวดเร็วในการอนุมัติ ⭐⭐⭐
วงเงินที่ได้รับ ⭐⭐⭐⭐⭐
ความสวยงามของบัตร ⭐⭐⭐⭐
Citi —Ready Credit
มาในหมวดบัตรกดเงินสด เรียกว่าขายพ่วงกับการสมัครบัตรเครดิต วงเงินเท่าๆกับบัตรเครดิตเลย ซึ่งผมเคยใช้แค่ครั้งเดียว ในกรณีต้องการใช้เงินก้อนที่ไม่ได้ด่วนมาก
ข้อดี: สามารถสั่งเงินสดเข้าบัญชีได้ และสามารถวางแผนการผ่อนชำระได้ ถ้าเลือกผ่อนตามแผนชำระ ดอกเบี้ยจะถูกกว่าปกติ แต่ถ้ากดเงินสดโดยตรงดอกเบี้ยจะเป็นดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดเลย นอกจากนี้บัตรกดเงินสดสมัยนี้สามารถผ่อนสินค้า 0% ได้ยาวนานกว่ามาก
ข้อเสีย: คือถ้าคุณกดเมนูผิดใน Application หรือลองกดเล่นๆ แต่ไม่ได้มีการทำธุรกรรมจริง วันรุ่งขึ้นจะมีพนักงานโทรมาหาคุณเลย ซึ่งน่ารำคาญมาก คือบางทีกดผิดอ่ะ จะเข้าไปดูบัตรเครดิต แต่กดผิดไปที่บัตรกดเงินสด
ความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ ⭐
ความรวดเร็วในการอนุมัติ ⭐⭐⭐
วงเงินที่ได้รับ ⭐⭐⭐⭐⭐
ความสวยงามของบัตร ⭐
Krungsri — Lotus’s Platinum Beyond Credit Card (Mastercard)
ไม่ต้องพูดอะไรมาก หน้าบัตรก็บอกเลยว่าโลตัสล้วนๆ ผมก็ใช้เพื่อซื้อของเข้าบ้านประจำเดือนเป็นหลัก ก็จะได้เป็นพวกส่วนลดและ point ต่างๆ และ point การ Convert เป็นคูปอง Lotus ได้ทุกๆ 3 เดือนโดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้เราประหยัดไปได้อีก
ถึงบัตรนี้จะไม่มีอะไรมากนักแต่มีสิ่งนึงที่ประทับใจจากบัตรเครดิตเครือ Krungsri คือการรับ OTP ผ่าน Application UChoose
ผมเคยไปเที่ยวต่างประเทศ แล้วต้องไปเข้าชมสถานที่นึง ซึ่งพอไปถึงพนักงานแจ้งว่าไม่มีตั๋วซื้อหน้างาน ต้องซื้อผ่านออนไลน์ในเว็บเขาเท่านั้น ผมไม่สามารถจ่ายด้วยบัตรธนาคารไหนได้เลยเพราะต้องใช้ OTP ผ่าน SMS มือถือ บังเอิญฉุกคิดได้ เห้ย! บัตรเครือกรุงศรี OTP ผ่าน UChoose ได้นี่หว่า แล้วคือมันได้จริงๆ รู้สึกดีใจมาก (แต่เอาจริงๆไม่ต้องหน้าบัตรนี้ขอแค่เป็นเครือกรุงศรีก็ใช้ได้แหละ)
นอกจากนี้หลายๆโปรโมชั่นของกรุงศรีนั้นใช้ได้แทบทุกหน้าบัตร ดังนั้นหลายโปรโมชั่นดีๆใบนี้ก็จะพลอยได้อานิสงค์ไปด้วย
ข้อดี: มุ่งเน้นไปที่การจับจ่ายที่ Lotus เป็นหลัก รวมถึงโปรโมชั่นในเครือ Krungsri สามารถได้เครดิตเงินคืนที่ปั๊ม Esso (ซึ่งผมไม่ได้ใช้แน่ๆ) สามารถใช้ OTP ผ่าน Application Uchoose ได้
ข้อเสีย: ค่าธรรมเนียมรายปีค่อนข้างสูง และการจะยกเว้นค่าธรรมเนียมต้องใช้จ่ายสูงมาก ผ่อน 0% ได้แค่ 3 เดือนที่โลตัสพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งตลกมาก ชาวบ้านเขาให้กัน 10 เดือน ทั้งๆที่ใช้ที่ Lotus แต่กลับผ่อน 0% ได้น้อยมาก
ความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ ⭐⭐⭐
ความรวดเร็วในการอนุมัติ ⭐⭐⭐
วงเงินที่ได้รับ ⭐⭐⭐⭐
ความสวยงามของบัตร ⭐⭐⭐⭐⭐
SCB — JCB Platinum Credit Card (JCB)
เน้นใช้งานต่างประเทศด้วยส่วนลดเงินคืนเมื่อจับจ่ายใช้สอยที่ต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, ฮ่องกง ทำให้หน้าบัตรนี้เหมาะมากกับคนไปเที่ยวโซนเอเชียบ่อยอย่างผม รวมถึงใครเป็นสายชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นบัตรนี้ก็มีส่วนลดให้ นอกจากนี้ยังได้สิทธิ์ในการเข้า JCB Lounge อีกด้วย
ถ้ายังจำได้ตัวผมเองไม่เคยได้รับการอนุมัติบัตรเครดิตของ SCB มาก่อนเลย คือรู้สึกว่ายากมากๆกับการได้บัตร SCB ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่บัตรใบนี้ผิดคาดมากๆ นอกจากอนุมัติแล้ว ยังอนุมัติไวมากเพียง 30 นาทีเท่านั้น ผมว่า กสิกรอนุมัติไวแล้วนะ แต่ยังสู้ SCB ไม่ได้เลย ที่สำคัญไม่ต้องใช้ 50 ทวิเหมือน Kasikorn ด้วย นอกจากนี้ตอนสมัครเราจะเห็นวงเงินมากที่สุดที่จะขอได้ เมื่อสมัครผ่าน SCB Easy App และสามารถปรับลดได้ตามต้องการจริงๆ คือเรียกว่าคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเอาวงเงินเท่าไหร่ ซึ่งมันดีมากนะ ส่วนตัวผมขอวงเงินไปไม่ถึงครึ่งของที่ควรได้ด้วยซ้ำ (แต่ไม่รู้ว่าถ้าขอน้อยมากจนเกินไป เขาอาจจะไม่อนุมัติก็ได้นะ ฮ่าๆๆ เขาคงแบบ อีนี่ มันไม่คุ้มค่าส่งบัตรกู แถมแกก็เป็นหนี้ได้น้อยอีก)
ข้อดี: เน้นไปที่การใช้จ่ายต่างประเทศโซนเอเชียเป็นหลัก เน้นท่องเที่ยว สิทธิประโยชน์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นจะมีมากกว่าบัตรอื่น อนุมัติไวจนขนลุก ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ หน้าบัตรถึงแม้เป็นสไตล์ปั๊มนูน (แต่ออกแบบได้สวยดูไม่ขัดตานัก) โปรโมชั่นผ่อน 0% ของ SCB มีเรื่อยๆและเข้าร่วมโปรโมชั่นบ่อย
ข้อเสีย: หน้าบัตรตัวนี้เป็น JCB ในบางประเทศอาจจะไม่รองรับ โปรโมชั่นต่างๆค่อนข้างเฉพาะเจาะจง เป็นบัตรปั๊มเลขนูน บางคนอาจจะไม่ชอบ อาจจะหาโอกาสใช้ในชัวิตประจำวันค่อนข้างยากยกเว้นร้านอาหารญี่ปุ่น จากที่ใช้มาหลายครั้ง มีอาการเอ๋อตัดไม่ได้บ่อย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์
ความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ ⭐⭐⭐
ความรวดเร็วในการอนุมัติ ⭐⭐⭐⭐⭐
วงเงินที่ได้รับ (สามารถเลือกได้เอง จึงขอไม่ลงคะแนนส่วนนี้)
ความสวยงามของบัตร ⭐⭐⭐⭐
TTB —ttb absolute (Visa)
บัตรนี้ต้องว่ากันยาว เพราะสมัครยากมากกกก ยากแบบ มียากกว่านี้อีกไหม คือวุ่นวายขั้นสุด ใครอยากอ่านมหากาพย์ สามารถไปอ่านบทความได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม บัตรธนาคาร ttb มีจุดเด่นตรงเรื่องการเปลี่ยนยอดใช้จ่ายเกิน 1,000 บาท ให้สามารถผ่อน 0% ได้ 3 เดือน แบบง่ายๆผ่านแอพ นอกจากนี้เมื่อรูดซื้อสินค้าที่ต่างประเทศก็จะได้เรทที่ค่อนข้างถูกพอสมควร รวมถึงมีโปรโมชั่นในการช็อปปิ้งออนไลน์พอสมควร ส่วนสิทธิประโยชน์อื่นๆยังไม่ดึงดูดนัก
ข้อดี: เน้นไปที่การใช้จ่ายต่างประเทศ ซื้อตั่วเครื่องบินและได้ประกัน สามารถเข้า Lounge Key ได้ และไม่เสียค่าธรรมเนียมรายปี ได้วงเงินเยอะที่สุดเท่าที่ได้มา
ข้อเสีย: อนุมัติช้า ขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อล้าหลัง โปรโมชั่นยังไม่ดึงดูดนัก หน้าบัตรไม่บ่งบอกว่าถือบัตรเครดิตระดับกลางค่อนสูง
ความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ ⭐⭐
ความรวดเร็วในการอนุมัติ ⭐
วงเงินที่ได้รับ ⭐⭐⭐⭐⭐
ความสวยงามของบัตร ⭐
จัดอันดับโดยสรุป
ผมขอจัดกลุ่มเล็กน้อย โดยผมจะจัดอันดับตามความชอบส่วนตัวล้วนๆ แบบว่า Love ใบไหนสุด ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะไม่ได้สมัครบัตรเครดิตเยอะขนาดนี้ ก็สามารถเอาข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจได้ครับ
1. Everyday Use: Citi Cash Back > Kasikorn Titanium
2. Travel: ttb absolute > SCB JCB Platinum > Krungsri Lotus’s Platinum Beyond (ผมแนะนำให้ติดไว้เวลาไปเที่ยวกันฉุกเฉิน หรือใช้เครือกรุงศรีอะไรก็ได้)
3. Supermarket: Krungsri Lotus’s Beyond > Kasikorn Titanium
4. ผ่อน 0% 10 เดือน: Kasikorn Platinum > Citi Cash Back > SCB JCB Platinum
5. ไม่มีก็ไม่ตาย: Kasikorn Platinum > Krungsri Lotus’s Platinum Beyond > ttb absolute
โห พอดูแล้วก็ยังเยอะอยู่ดีเลือกไม่ถูก งั้น 3 อันดับในดวงใจ เป็นดังนี้
- Citi Cash Back
- Kasikorn Titanium
- Krungsri Lotus’s Platinum Beyond
บางคนบอก… อยากมีแค่ใบเดียวได้ไหม แบบว่ากลัวจะเป็นหนี้ ไม่เอาไม่ไหว …. ก็ต้องบอกว่า Citi Cash Back Credit Card นี่แหละ ใบเดียวเอาอยู่ คุ้ม ครบ จบในตัว
เพื่อนๆมีใครใช้บัตรเครดิตใบไหนอยู่บ้าง หรือมีใบไหนอยากแนะนำเป็นพิเศษ Comment แนะนำพูดคุยกันมาได้นะครับ