รีวิวและพิชิต Google Project Management: Professional Certificate
หลังจากผมสอบ PMP ผ่านไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว ก็เหมือนกับไร้จุดหมายไปสักพัก … แน่นอนว่า โอเค PMP ทำให้เราได้งานใหม่ และเป็นที่ต้องการในตลาดสูงมากๆ
แต่หลังจากนั้นล่ะ ในมุมของการพัฒนาตัวเองหรือ self development ในอนาคตของเรานั้นจะเป็นอย่างไรต่อ
จริงๆแล้วผมก็เพ่งเล็งไปต่อที่ PMI-ACP อยู่ เพียงแต่ว่ายังอยู่ในช่วงขออนุมัติจากผู้ใหญ่ใจดี หรือบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ ซึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ และถึงแม้จะมี Monthly Lecture ของ PMI Thai ก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าทุกครั้งจะเป็นหัวข้อที่เราสนใจเสมอไป (ส่วนใหญ่ผมไปก็จริง แต่หัวข้อไหน ดูแล้ว ไม่ใช่แนว ก็ไม่ไปเอาดื้อๆเหมือนกัน)
โชคชะตาก็เหมือนเล่นตลก ทำให้เราบังเอิญไปเจอ Content กึ่งๆโฆษณาเกี่ยวกับ Google Project Management ที่เรียนออนไลน์ผ่าน Coursera.com ซึ่งเขาจะให้ Trial Period 7 วัน ก่อนจะเริ่มเก็บตัง (39 USD ต่อเดือน ซึ่งถือว่าถูกมากกกกก คือเรียนอะไรก็ได้ในนั้นเดือนละเท่านี้ก็จัดว่าคุ้ม)
Google Project Management: Professional Certificate คืออะไร
มันคือ Certificate ที่ออกโดย Google 100% และเป็นส่วนหนึ่งใน Certificate Program ของ Grow with Google
ข้อดีของ Certificate ตัวนี้คือ
- ไม่ต้องมีประสบการณ์ด้าน PM หรือ จบปริญญาใดๆ
- 100% เรียนออนไลน์ (แต่บอกก่อนว่าไม่ง่ายขนาดนั่งดูเฉยๆก็ผ่าน ไว้อ่านด้านล่าง)
- ใช้เวลาต่ำกว่า 10 ชม. ต่อสัปดาห์ ในการเรียนรู้แต่ละสัปดาห์ (แต่ละ Course ออกแบบไว้ให้เรียน 4–6 สัปดาห์)
- ใครที่ยังกลัวว่า PMP มันยากเกินไป สามารถเริ่มต้นกับคอร์สนี้ได้ดี
- ไม่มีวันหมดอายุ Cert
ตามคำกล่าวอ้างของ Google หลังจากเรียนจบจนได้ Certificate นี้ จะสามารถช่วยให้คุณหางานได้ง่ายขึ้น แม้ไม่มีประสบการณ์ด้าน PM เช่น ใครก็ตามที่เริ่มเป็น PM หรือ Jr. PM แถมเงินเดือนก็สูงพอควรเลยนะ 59,000 USD ต่อปี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคำกล่าวอ้างเหล่านี้ หรือเงินเดือนข้างต้น มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นใน US เท่านั้น …. แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นของผมหรอก ประเด็นอยู่ที่เราจะได้เรียนรู้อะไรที่มากขึ้น พัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น
มันน่าสนใจตรงที่มันเป็น Google นั่นแหละ… แต่เดี๋ยวก่อน
การที่คุณจะได้ Certificate นี้ ไม่ใช่ว่าเรียนจบปุ๊บปั๊บรับโชค เหมือนเรียน CSM แต่อย่างใด คุณจะต้องเรียนจบทั้งหมด 6 คอร์สย่อย! ถึงจะได้ Certificate อันหลักคือ Google Project Manangement ซึ่งประกอบไปด้วย
- Foundation of Project Management
- Project Initiation: Starting a Successful Project
- Project Planning: Putting It All Together
- Project Executing: Running the Project
- Agile Project Management
- Capstone: Applying Project Management in the Real World
บางคนบอกแหมแค่ 6 คอร์สเอง เรียนวันละคอร์สก็จบแล้ว….. ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้น…. แต่มันถูกออกแบบให้แต่ละคอร์สมันมี 4–6 สัปดาห์ยังไงล่ะ!
ในคอร์สไม่ได้มีเพียงวิดีโอ แล้วมีคนมาพูดๆสอนๆเท่านั้น แต่จะมีข้อมูลอ้างอิง หรือสิ่งที่เขาไม่ได้พูด หรือให้เราศึกษาอ่านเพิ่มด้วย (ซึ่งต้องอ่านนะ เพราะมันมีถามในข้อสอบด้วย)
แล้วคุณเห็นในรูปไหม….. มันมีคำว่า Grades ด้วย …. นั่นหมายความว่า คุณจะต้องทำข้อสอบให้ผ่านด้วย
ข้อสอบก็จะเป็นอะไรที่คุณเรียนมา จะแบ่งเป็น Quiz ตามเบี้ยใบ้รายทาง และข้อสอบ Quiz แบบหลังจบบท …. ซึ่งการที่จะผ่าน Quiz ได้คุณต้องได้ 80% ขึ้นไป …. แต่ว่าเขายังใจดีในแง่ที่ว่า ถ้าคุณทำข้อสอบไม่ผ่านในแต่ละ Quiz คุณสามารถทำใหม่ได้
แต่! ถ้าคุณได้คะแนนต่ำกว่า 80% ครบ 3 ครั้ง คุณต้องรออย่างน้อย 7-8 ชม. ถึงจะมาทำใหม่ได้! (ผมก็เคยตกมา 2 ครั้ง ไม่ได้เก่งพระเจ้าแต่อย่างใด นั่งอ่านทบทวนรอวนไปจ้า)
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ยังแอบมั่นใจอยู่ว่า …. เอาน่าถ้าตั้งใจแค่ข้อสอบ ก็คงไม่ยากอะไรหรอกน่า…. ผมก็ต้องบอกว่าจริงอยู่ที่ข้อสอบก็ไม่ได้หินมาก แต่ก็ไม่ง่ายมาก ก็พอทำได้บ้างผิดบ้าง ถึงแม้ข้อสอบ ไม่ใช่ตัวเลือกที่มีคำตอบเดียว บางข้ออาจตอบได้มากกว่าหนึ่งข้อ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรถ้าคุณมั่นใจมากพอ
แต่มันไม่หมดแค่นั้นไง! นอกจากคุณทำ Quiz แล้ว คุณจะมีการบ้านที่ต้องทำส่งด้วย และถูกเอามาคิดเป็น Grade ในการจบคอร์ส! เขาใช้คำว่า Peer-Graded Assignment
เขาใช้คำว่า Peer นั่นหมายความว่า มันจะต้องมีคนมารีวิวให้คะแนนการบ้านคุณไงล่ะ… ถามว่าใครเป็นคนให้คะแนนล่ะ?…. คำตอบคือ เพื่อนๆที่เรียนคอร์สเดียวกับคุณ ณ เวลานั้นๆไงล่ะ!
ในทำนองเดียวกัน หลังจากคุณส่งการบ้านของคุณแล้ว คุณจะต้องทำการตรวจการบ้านให้กับคนอื่นอย่างน้อย 2 คนด้วย! (ไม่ตรวจก็ไม่จบคอร์ส)
อ่านมาถึงตรงนี้อย่าพึ่งหมดหวังไปเสียก่อนครับ
เนื้อหาต่างๆในคอร์สนี้ จะค่อนข้างอ้างอิงกับ PMI ซะเยอะเลย ดังนั้นใครที่เรียน PMP มาก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น ส่วนใครที่ไม่ได้เรียนมา เขาก็ไม่ได้หยิบมาซะทั้งหมด ถ้าเทียบความยากแล้ว PMP ยากกว่ามาก
สิ่งที่ต้องเอามาแลกคือความขยัน อ่านเยอะ ดูเยอะ ฟังเยอะ ทำการบ้านเยอะ และสอบเยอะ แต่ในแง่องค์ความรู้ที่จำเป็นกับ PM นั้นครบถ้วนมากพอ
เคล็ดลับ พิชิต Certificate ใน 7 วัน
หลายคนน่ะ ชอบเหลือเกินไอ้ทางลัดพวกนี้ …. สำหรับ PMP ผมบอกได้ว่าไม่มีทางลัด แต่สำหรับคอร์สนี้ มันพอจะมีทางอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ครับ มันมีเงื่อนไขอยู่
- คุณต้องเป็นคนขี้งกแบบผม ไม่อยากเสีย 39 USD เพื่อ Subscribe ละลึกเสมอว่าฉันจะไม่เสียเงินเด็ดขาด
- คุณต้องเรียน PMP มาก่อน รู้ Process ทั้งหมดพอเข้าใจภาพรวมทั้งหมด
- คุณต้องมีเวลาอย่างเพียงพอ (ผมใช้เวลาตอนพักเที่ยง ตอนพักหลังจากทำงานเสร็จเล็กน้อย และหลังเลิกงานจนถึงตี 1–ตี 2 ทุกคืน)
- คุณต้องฟังภาษาอังกฤษได้อย่างเข้าใจดี และสามารถฟังแบบเร็ว x1.5 — x2.0 ได้ ตอนผมเรียน ผมเร่งไปที่ 1.5 เพราะฟังความเร็วปกติแล้วจะหลับเอา ยิ่งเรียนดึกๆด้วยแล้ว
- คุณต้องมีสมาธิตอนทำการบ้านมากๆ และผมแนะนำให้คุณตั้งใจทำ ถึงแม้ผมจะไม่เคยโดนคนอื่นให้คะแนน Peer-Graded แบบน้อยจนตก แต่ผมเคยให้คนบางคนใน Class นั้นตกมาแล้ว (คือบางคนระบบมันส่งมาให้ผมรีวิวแล้วแบบ… อีเหี้ย ใช้มือทำหรือตีนทำวะเนี่ย ไม่ตรงโจทย์สั่ง ทำไม่ครบ อ่านไม่รู้เรื่อง) และผู้คนในนั้นก็ค่อนข้างยุติธรรมมากๆ
- คุณห้ามท้อเด็ดขาด เพราะผมบอกเลยว่า ผมท้อทุกวันเลย แม่งเหนื่อย เยอะและยาก แถมเวลาก็เร่งเร้าเพราะความงก (แต่ความงกชนะทุกสิ่ง ฉันเป็นคนไทย และไทยแปลว่าอิสระ ยังไงฉันก็ไม่ตกเป็นทาส Subscription ของคุณหรอกค่ะ!)
รีวิวความรู้สึกหลังจบคอร์ส
- ผมเร่งเรียนจบภายใน 6 วัน นิดๆ ปวดหัวขั้นสุด โดยเฉพาะคอร์สสุดท้าย ที่มันต้องกระหน่ำทำการบ้านและส่งให้ไว เพราะไม่รู้ว่าตอนไหนระบบจะสุ่มการบ้านของเราไปให้คนอื่นรีวิว (บางทีส่งวันนี้ Grade ออกพรุ่งนี้) แถมคนที่เรียนคอร์สนี้ค่อนข้างน้อย เพราะส่วนใหญ่ ตายกันไปก่อนกับคอร์สแรกๆ
- เป็นคอร์สที่เหมาะสำหรับ Entry — Intermediate Level คือจริงๆก็เหมาะกับทุกเพศทุกวัยอยู่ สิ่งที่เขาดึงมาเนี่ย มันคือสิ่งที่เราใช้ได้บ่อยในโครงการ หยิบเทคนิคของ PMP ที่ Google คิดว่า work มาสอนเรา
- ชอบการบ้านที่ให้ทำมากๆ เพราะว่าถ้าคุณเรียน PMP คุณอาจจะรู้ว่ามีเอกสารอะไร จุดประสงค์คืออะไร และหน้าตาเป็นประมาณไหน แต่ในคอร์สนี้คุณจะได้ทำมันจริงๆเลย และจะมองเห็นคุณค่าของมันมากขึ้น คนออกแบบคอร์สนี้ออกแบบมาได้ค่อนข้างดี
- สำหรับ Agile ในนี้ก็มีให้เรียน ครอบคลุม Agile + Scrum และแตะๆ XP, Lean, SaFe, DevOP นิดๆ แต่ยังไม่ถึงขั้น PMI-ACP, DASM แต่ก็ดีแล้วนะผมว่า ไม่งั้นก็ไม่ต้องเรียน PMI-ACP หรอกจริงมะ
- รู้สึกว่าจริงๆแล้วควรเรียนเป็น Week ตามที่เขาแนะนำนั่นแหละ Subscribe ไปเหอะ ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เดือนไหนคุณไม่เรียนคุณก็แค่ไม่ต่อ Subscribe มีเวลาก็มาต่อใหม่ ไม่งั้นปวดหัวเหมือนผมแน่นอน
- ในคอร์สจะมีพูดถึงการทำ Resume ของเราด้วยว่า ถ้าจะหางาน PM เราจะเขียน Resume อย่างไร ที่สำคัญเวลาสัมภาษณ์ คุณจะเจอคำถามยังไง จะโต้ตอบกับผู้สัมภาษณ์อย่างไร ให้เขารู้ว่าเรามีความรู้ เราศึกษามาจากคอร์สนี้ และสร้างความมั่นใจให้กับนายจ้างว่าเราสามารถ make it happen ได้
- สรุปเป็นคอร์สที่ผมชอบมากอีกคอร์สนึง สนุก ท้าทาย ได้ความรู้เต็มๆ
อนาคตของ Certificate ตัวนี้จะเป็นอย่างไร
คือ Google ไม่ได้การันตีว่าคุณได้ Cert นี้แล้วคุณจะได้งานนะ แต่เขาบอกแค่ว่ามันจะเป็นการเปิดประตู Career Path ของคุณใน Field นี้ เขาวาง Certificate นี้ออกไปแนว Entry Level ด้วยซ้ำ แต่มั่นใจได้ว่าคุณจะมีองค์ความรู้เพียงพอสำหรับการทำงาน PM เมื่อคุณผ่านคอร์สเหล่านี้ ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์ใดๆมาก่อนก็ตาม
สำหรับการผลักดัน Certificate ตัวนี้ ผมคิดว่า Google ก็พยายามอยู่ และด้วยความที่แปะชื่อด้วย Google แล้วเนี่ย มันจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคุณได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าองค์กรรู้ว่า เห้ย! ไอ้ Certificate ตัวนี้ มันไม่ได้เรียนแล้วจบง่ายๆนะเฟ้ย แถมเนื้อหาข้างในครบถ้วน ผมว่าองค์กรต่างๆก็จะเริ่มเปิดใจ แล้วอาจจะผลักดันเป็น requirement พื้นฐานก็เป็นได้ (Google ก็คงพยายามอยู่ และคิดว่าประสบความสำเร็จระดับนึงแล้วในอเมริกา)
ข้อพิจารณาของ Certificate ตัวนี้
ผมขอปิดบทความด้วยข้อพิจารณาละกันนะครับ เผื่อไว้ใช้พิจารณาว่าคุณควรไปต่อกับ Cert ตัวนี้ หรือไม่เอาดีกว่า เพราะผมว่ามันไม่ได้เหมาะกับทุกคน
- Certificate ยังไม่ได้เป็นที่รู้จัก เรียกได้ว่าเปิดใหม่ในปีนี้เลยก็ว่าได้ ในอินเตอร์เน็ตก็ยังมีคนไม่มั่นใจว่าจะเรียนดีไหม
- คุณต้องใช้เวลากับมันนานกว่า CSM (แต่ถือว่าน้อยกว่า PMP ในแง่ความยาก)
- ด้วยความที่ว่ามันต้องทำการบ้าน คนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีเวลาถึง 10 ชม. และไม่พร้อมที่จะปวดหัวตอนทำการบ้าน ผมไม่แนะนำเลยนะ เชื่อผมเถอะ Please
- ถ้าคุณถือ PMP อยู่แล้ว บางทีมันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องได้ Cert ตัวนี้ เพราะว่า PMP มันการันตีตัวคุณอยู่แล้ว หรือใครที่มีแพลนจะสอบ PMP อยู่แล้ว ก็มุ่งไป PMP ได้เลย ใช้องค์ความรู้เดียวกันเลย
แอบแย้มๆว่าในคอร์สมันมีเทคนิคเจ๋งๆเพียบเลย ไว้จะดึงมาเขียนเป็นบทความในอนาคตนิดๆหน่อยๆละกันนะครับ เพราะผมคิดว่ามันน่าสนใจดี